ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (NANOTEC) https://www.nanotec.or.th/th Thu, 23 Jan 2025 10:20:45 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=6.7.1 https://www.nanotec.or.th/th/wp-content/uploads/2016/10/cropped-ff-1-32x32.png ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (NANOTEC) https://www.nanotec.or.th/th 32 32 นาโนเทค สวทช. เปิดบ้านต้อนรับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในงานขุมพลังสมุนไพรไทยสู่อนาคตแห่งอุตสาหกรรมสมุนไพรโลก https://www.nanotec.or.th/th/nanotec-nstda-fti-visit-23012025/ Thu, 23 Jan 2025 10:20:44 +0000 https://www.nanotec.or.th/th/?p=25264

วันที่ 23 มกราคม 2568 ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ปทุมธานี - ดร. อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พร้อมด้วยดร. วิยงค์ กังวานศุภมงคล รองผู้อำนวยการนาโนเทค ดร. ศิวพร มีจู สมิธ รักษาการรองผู้อำนวยการนาโนเทค และคุณศันสนีย์ ฮวบสมบูรณ์ รองผู้อำนวยการนาโนเทค พร้อมด้วยคณะนักวิจัยนาโนเทค ร่วมต้อนรับคณะจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( ส.อ.ท.) กลุ่มอุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม นำโดยคุณวิวรรธน์ เหมมณฑารพ รองประธาน ส.อ.ท. และ ประธานสถาบันนวัตกรรม พร้อมด้วยคุณนาคาญ์ ทวิชาวัฒน์ ประธานกรรมการคลัสเตอร์อุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม ส.อ.ท. และสมาชิก ส.อ.ท. ที่เข้าร่วมงานขุมพลังสมุนไพรไทยสู่อนาคตแห่งอุตสาหกรรมสมุนไพรโลก ภายใต้โครงการสร้างความร่วมมือระหว่างสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กลุ่มอุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม และนาโนเทค สวทช. พร้อมรับฟังการนำเสนอศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม อาทิ สารสกัดกระชายดำ และอนุภาคกักเก็บสารสำคัญจากกระชายดำที่พร้อมอนุญาตสิทธิใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยให้กลุ่มสมาชิก ส.อ.ท. และกระบวนการสกัดสารสกัดที่น่าสนใจสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและอาหาร/เครื่องดื่ม อาทิ สารสกัดเห็ดหลินจือ, สารสกัดจากดอกดาวเรือง, สารสกัดจากน้ำมันฟักข้าว นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอข้อมูลโรงงานต้นแบบผลิตอนุภาคนาโน เพื่อผลิตภัณฑ์อาหารและเสริมอาหาร, บริการวิเคราะห์ทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัย และกรณีศึกษาเรื่อง ความสำเร็จจากห้องปฏิบัติการสู่ผู้ประกอบการ บริษัท โครโนไลฟ์ จำกัด ดีปเทคสตาร์ทอัพจากงานวิจัยของนาโนเทค สวทช. อีกด้วย

ดร. อุรชา กล่าวว่า สมุนไพรไทย เป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติที่มีสมบัติทางเคมีที่มีประโยชน์หลากหลายมิติ ซึ่งการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาช่วยเสริมศักยภาพ ประสิทธิภาพให้กับสมุนไพรนั้น นับเป็นการยกระดับสมุนไพร และสารสกัดสมุนไพรให้ดียิ่งขึ้น โดยในวันนี้ นาโนเทค สวทช. เองได้คัดเลือกผลงานวิจัยและสตาร์ทอัพมานำเสนอ ด้วยหวังเป็น Research Hub สำหรับการวิจัยพัฒนาและวิเคราะห์ทดสอบ เพื่อต่อยอดสู่ความร่วมมือในอนาคต

เช่นเดียวกับคุณนาคาญ์ ประธานกรรมการคลัสเตอร์อุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม ส.อ.ท. กล่าวว่า สวทช. โดยนาโนเทค มีเทคโนโลยี หลายอย่างที่เปิดให้ผู้ประกอบการมาเลือกใช้ ดังนั้น ในวันนี้นอกจากจะมีผู้ประกอบการที่สนใจร่วมมือกันในงานวิจัยพร้อมใช้ ยังมีโอกาสสำหรับการวิจัยร่วม ที่สามารถสนับสนุนกันได้ เอื้อต่อผู้ประกอบการในด้านของการลดต้นทุน สร้างจุดขายด้านนวัตกรรม เสริมประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ ด้วยมองว่า นาโนเทคเป็นปลายหอกช่วยให้อุตสาหกรรม โดยเฉพาะในกลุ่มสุขภาพและความงามแข็งแกร่งขึ้น และคาดว่า นอกจากครั้งนี้ที่เป็นกิจกรรมนำร่อง ก็จะมีการต่อยอดในคลัสเตอร์อื่นๆ เพื่อเป็นการติดอาวุธให้ผู้ประกอบการไทยสามารถต่อสู่บนเวทีโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ

]]>
นาโนเทค สวทช. ต้อนรับคณะจากกรมควบคุมมลพิษ ในการเยี่ยมชมและหารือความร่วมมือเพื่อการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมด้วยนาโนเทคโนโลยี https://www.nanotec.or.th/th/nanotec-nstda-pollutioncontroldepartment-visit-10012025/ Mon, 13 Jan 2025 08:31:32 +0000 https://www.nanotec.or.th/th/?p=25235
วันที่ 10 มกราคม 2568 ณ อาคารกลุ่มนวัตกรรม 2 (INC2) อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย - ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) นำโดย ดร. อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทค ดร. วิยงค์ กังวานศุภมงคล รองผู้อำนวยการนาโนเทค ดร. ศิวพร มีจู สมิธ รักษาการรองผู้อำนวยการนาโนเทค และคุณศันสนีย์ ฮวบสมบูรณ์ รองผู้อำนวยการนาโนเทค พร้อมด้วยคณะนักวิจัยนาโนเทค ร่วมต้อนรับคณะจากกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำโดย ดร.ชานัน ติรณะรัต ผู้อำนวยการกองจัดการคุณภาพน้ำ ในการเยี่ยมชมศูนย์นาโนเทค สวทช. นี้ พร้อมกับร่วมประชุมหารือความร่วมมือเพื่อการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมด้วยนาโนเทคโนโลยี
ในการนี้ ยังได้นำเสนอศักยภาพทางด้านการวิจัยและพัฒนา นำโดย ดร.ณัฏฐพร พิมพะ ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยการเร่งปฏิกิริยาระดับนาโนการดูดซับและการคำนวณ, ดร.วีรกัญญา มณีประกรณ์ ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยวัสดุตอบสนองและเซ็นเซอร์ระดับนาโน ในการให้ข้อมูล และนำชมต้นแบบผลงานวิจัยทางด้านการตรวจวัด วิเคราะห์ และบำบัดน้ำและคุณภาพน้ำ พร้อมทั้งเยี่ยมชมห้องปฎิบัติการทีมวิจัยกราฟีน นำโดยดร.จันทร์เพ็ญ ครุวรรณ์ หัวหน้าทีมวิจัยกราฟีน กลุ่มวิจัยวัสดุผสมและกระบวนการนาโน ซึ่งอาจนำไปสู่ความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
]]>
สวทช.-มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ร่วมการประชุมติดตามและเยี่ยมชมโครงการตรวจวัดและพัฒนาคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภค และบริโภคด้วยวทน. ของสำนักงบประมาณ https://www.nanotec.or.th/th/nanotec-nstda-lpru-waterqualityproject-01062025/ Wed, 08 Jan 2025 05:49:05 +0000 https://www.nanotec.or.th/th/?p=25204

วันที่ 6 มกราคม 2568 ณ ห้องประชุมชั้น 10 อาคารโอฬาร โรจน์หิรัญ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง - ดร. สมบุญ สหสิทธิวัฒน์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.), ดร. อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยี (นาโนเทค) สวทช., ดร. ศิวพร มีจู สมิธ รักษาการรองผู้อำนวยการสายงานวิจัยและพัฒนา นาโนเทค, คุณศันสนีย์ ฮวบสมบูรณ์ รองผู้อำนวยการสายงานสนับสนุนวิจัย นาโนเทค พร้อมด้วย รศ.ดร.ปริเยศ สิทธิสรวง รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร รศ.วิไลลักษ์ พรมเสน รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและวิชาการต่างประเทศ ผศ.ดร.หฤทัย ไทยสุชาติ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ และผู้บริหาร ร่วมรับการตรวจติดตามโครงการภายใต้ความร่วมมือโครงการบูรณาการน้ำ โดยมีคุณเบญจมาศ มหาวงศ์ขจิต ผู้อำนวยการส่วนงบประมาณ กระทรวงการอุดมศึกษาฯ 1 สำนักงบประมาณ และคุณณัฐชยา เม็นไธสง ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอน (สพฐ.) ร่วมรับฟังความก้าวหน้าของโครงการฯ

ดร. อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยี (นาโนเทค) สวทช. กล่าวว่า โครงการตรวจวัดและพัฒนาคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ภายใต้แผนบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เป็นตัวอย่างโครงการสำคัญที่ สวทช. ได้ดำเนินการตั้งแต่ ปี 2566 มุ่งนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์เพื่อสังคมและชุมชนครอบคลุมกว่า 3,000 ครัวเรือนในพื้นที่จังหวัดลำปาง ขอนแก่น เชียงราย และอุดรธานี และพยายามพัฒนาเทคโนโลยีในพื้นอื่นๆ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่จะยกระดับการบริหารจัดการน้ำ จะจัดหาน้ำสะอาดสำหรับอุปโภคบริโภคให้ประชาชนทุกพื้นที่ที่เข้าถึงได้ รัฐบาลจะแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งร่วมกับทุกภาคส่วน โดยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับศักยภาพของลุ่มน้ำและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ และเพิ่มขีดความสามารถของพื้นที่และชุมชนท้องถิ่นในการจัดการสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชน และสอดคล้องกับแผนสำคัญของประเทศ ได้แก่ แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (ปรับปรุงช่วงที่ 1 พ.ศ. 2566 – 2568) ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้งมิติปริมาณและคุณภาพน้ำ เช่น การจัดหาน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภคให้เพียงพอได้มาตรฐานและระบบสุขาภิบาลที่ดีมีความเหมาะสม ส่งเสริมสนับสนุนการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน เสริมสร้างการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้ำทุกระดับ นำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม

ความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง และ สวทช. ได้ดำเนินการดำเนินการมา 3 ปี ซึ่ง 2 หน่วยงานให้ความสำคัญต่อประเด็นความร่วมมือทางด้านวิชาการ การจัดการความรู้และการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน โดย สวทช. โดย นาโนเทค ได้ใช้ความสามารถทางด้านการตรวจวัดและพัฒนาคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคด้วย วทน. และการจัดการน้ำเพื่อการเกษตร ซึ่งปัจจุบัน มรภ.ลำปาง และ สวทช. ได้ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรในเชิงพื้นที่พัฒนาและดำเนินโครงการตรวจวัดและพัฒนาคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคด้วย วทน. (ภายใต้แผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำ ตั้งแต่ปี 2566) โดยมี ผศ.ดร.ณรงค์ คชภักดี รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาร่วมดำเนินงาน อีกทั้งได้มีลงนามความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา การบริการวิชาการ การจัดการความรู้ และการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน ในปี 2566 มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ได้ร่วมสนับสนุนโครงการตรวจวัดและพัฒนาคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

"จากความร่วมมือนี้ เราคาดหวังให้เกิดการร่วมวิจัยและพัฒนาเพิ่มความเข้มแข็งทางวิชาการ การพัฒนากำลังคนและจัดการความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่นำไปสู่การถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน เป็นการตอกย้ำความร่วมมือของหน่วยงานภายใต้กระทรวง อว. ที่ สวทช. จะร่วมกันดำเนินการขับเคลื่อนจังหวัดการพัฒนาด้านการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.) ผ่านกรอบความร่วมมือดำเนินงานวิจัยและพัฒนาในรูปแบบต่างๆ ร่วมกันจัดหาและสนับสนุนทรัพยากร ร่วมแลกเปลี่ยนและเสริมสร้างความรู้ ประสบการณ์ และข้อมูลทางวิชาการ และร่วมกันพัฒนาบุคลากร พัฒนาหลักสูตรทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จากความเข้มแข็งของ 2 หน่วยงาน ทั้ง สวทช. ในฐานะหน่วยงานที่สร้างองค์ความรู้ด้านการวิจัยขั้นสูงหรือเรียกว่าเป็น scientific partner และมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ร่วมทั้งมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในฐานะสถาบันการศึกษาที่มีความเชี่ยวชาญเชิงพื้นที่ร่วมกันทำงานเป็น local partner นำองค์ความรู้จากการวิจัยและพัฒนาสู่การปฏิบัติใช้จริงในพื้นที่ เกิดการพัฒนา ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ภายในท้องถิ่นสร้างประโยชน์และความยั่งยืนในชุมชน" ดร. อุรชาย้ำ

]]>
NANOTEC Newsletter ฉบับที่ 47 ประจำเดือนธันวาคม 2567: Cover Story https://www.nanotec.or.th/th/nanotec-newsletter-coverstory-issue47-dec2567/ Mon, 06 Jan 2025 03:09:16 +0000 https://www.nanotec.or.th/th/?p=25173

NANOTEC2025 ภายใต้การนำของ ดร. อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย ผู้อำนวยการนาโนเทค สวทช. และทีมผู้บริหารชุดใหม่ ได้แก่ ดร. วิยงค์ กังวานศุภมงคล รองผู้อำนวยการสายงานวิจัยและพัฒนา, ศาสตราจารย์ ดร.ศิวพร มีจู สมิธ รักษาการรองผู้อำนวยการสายงานวิจัยและพัฒนา, คุณศันสนีย์ ฮวบสมบูรณ์ รองผู้อำนวยการสายงานสนับสนุนวิจัย และ ดร.ศุภวงศ์ วิชพันธุ์ รองผู้อำนวยการสายงานบริหาร จะขยับไปในทิศทางไหน NANOTEC Newsletter ฉบับนี้จะพาไปคุยกับ “ดร. เอ – อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย” ถึงแนวทางการขับเคลื่อนศูนย์นาโนเทค ในช่วงวาระนี้ (2568-2571) ภายใต้แนวคิด Innovate, Collaborate and Grow พร้อมวางวิสัยทัศน์ในการเป็น “องค์กรวิจัยชั้นนำที่ใช้ประโยชน์นาโนเทคโนโลยีขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมและพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน” รวมถึงแนวทางการบริหารองค์การตามพันธกิจ ได้แก่ วิจัยและพัฒนาตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรม, ผลักดันเทคโนโลยียกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน และส่งเสริมธุรกิจนวัตกรรม ที่ด้าน SF ให้ความสำคัญกับ 3 ปัจจัย คือ นวัตกรรม, ความร่วมมือกับพันธมิตร และการเติบโตอย่างยั่งยืน

ดร. อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า 21 ปีที่ผ่านมา นาโนเทคเติบโตอย่างมั่นคง มีกำลังคนด้านนาโนเทคโนโลยีที่ทำงานวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างสรรค์องค์ความรู้ และนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับนาโนเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง มีกำลังคนสายงานสนับสนุนที่เป็นกำลังเสริมในด้านต่างๆ เพื่อนำนวัตกรรมส่งถึงมือผู้ใช้

“เสื้อนาโน มุ้งนาโน โลชั่นกันยุงนาโน SOS Water เครื่องผลิตน้ำพลังแสงอาทิตย์ หรือไข่ออกแบบได้” นวัตกรรมในยุคแรกๆ ของนาโนเทค ที่มีการต่อยอดทั้งในเชิงการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับภาคเอกชน รวมถึงเชิงสาธารณประโยชน์ โดยเฉพาะในช่วงภาวะฉุกเฉิน ก่อนขยับสู่เทคโนโลยีที่ก้าวหน้ากว่าเดิม เพื่อช่วยแก้ปัญหาที่ผู้ใช้ต้องการ อาทิ เวชสำอางจากพืชสมุนไพรต่างๆ อาทิ เห็ดหลินจือ หรือกลุ่ม Herbal Champion, แผ่นกรองอากาศต้านเชื้อราแบคทีเรีย หรือการตอบโจทย์ความต้องการเร่งด่วนอย่างการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อาทิ ชุดตรวจคัดกรองโควิด-19 (NANO Covid-19 Antigen Rapid Test), หมวกแรงดันบวก- ลบ ลดการแพร่เชื้อหรือสารฆ่าเชื้อต่างๆ” ดร. อุรชา ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทค กล่าวพร้อมย้ำว่า นาโนเทค2025 เราจะ “รุก” ให้มากขึ้น

นาโนเทค สวทช. ในปี 2568 จะเดินหน้าตามแนวคิด Innovate, Collaborate and Grow ที่จะให้ความสำคัญกับ 3 ปัจจัย คือ นวัตกรรม, ความร่วมมือกับพันธมิตร และการเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านกลยุทธ์ที่เรียกว่า 4 Strategic Focus (SF) หรือกลไกการผลักดันเทคโนโลยียกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน (improve quality of life) เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาต่อยอดผลงานวิจัยนาโนเทค ที่มุ่งเป้าเพื่อแก้ไขปัญหาตามโจทย์ความต้องการของประเทศ ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ เสริมแกร่งความสามารถในการแข่งขัน ได้แก่ สารสกัดสมุนไพร, ชุดตรวจสุขภาวะ, เกษตรและอาหาร และ น้ำและสิ่งแวดล้อม

ดร. อุรชาเผยว่า ในระยะเวลา 1 ปีจากนี้ เราจะเห็นผลงานต่างๆ ของแต่ละ SF ถึงมือผู้ใช้อย่างต่อเนื่อง เริ่มจาก SF สารสกัดสมุนไพรที่สารสกัดกระชายดำสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ 3 บริษัท สร้างรายได้ให้กับประเทศ ยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทยสู่ระดับสากล พร้อมตั้งเป้าต่อยอดสู่อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่คาดว่าจะใช้สารสกัดสมุนไพรเพิ่มขึ้นในอนาคต เช่นเดียวกับ SF ชุดตรวจสุขภาวะ ที่จับมือพันธมิตรสำคัญอย่างสภาเภสัชกรรมและ สปสช. ผลักดัน “ชุดตรวจคัดกรองโรคไต” เข้าสู่ระบบร้านยาของรัฐ และเตรียมขยายสู่ชุดตรวจทางการแพทย์อื่นๆ รวมไปถึงตลาดใหม่อย่างการวิจัยและพัฒนาไปสู่คุณภาพชีวิตสัตว์เลี้ยง

ด้าน SF น้ำและสิ่งแวดล้อม นอกจากเรื่องน้ำสะอาดที่นาโนเทควิจัยพัฒนาระบบกรองน้ำอุปโภคและบริโภคสำหรับชุมชน และขยายผลถ่ายทอดองค์ความรู้การจัดการคุณภาพน้ำสู่ผู้ใช้ประโยชน์หลายพื้นที่ในไทย ยังมีเรื่องของ วัสดุโครงข่ายโลหะอินทรีย์ หรือ Metal Organic Frameworks (MOFs) เป็นวัสดุดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประสิทธิภาพสูง และการแปลงก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 conversion) ในภาคอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ โรงไฟฟ้า โรงกลั่นปิโตรเคมี ที่นาโนเทคมีความร่วมมือกับเอกชนยักษ์ใหญ่หลายราย เพื่อสอดรับนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)

SF เกษตรและอาหาร มุ่งเป้าด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) โดยเฉพาะด้านการขจัดความอดอยาก (SDG 2) และนโยบายของภาครัฐด้านการสร้างความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) เริ่มจาก “ไข่สุขภาพหรือไข่โอเมก้า-3” เป็นนวัตกรรมยกระดับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ ให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง และปุ๋ยคีเลตหรือสารคีเลตจุลธาตุอาหาร เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ยหลัก ลดการสูญเสียธาตุอาหารและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

“นอกจากผลงานที่จะเห็นจาก 4SF นาโนเทค 1 ปีจากนี้ จะมุ่งเน้นการทำงานร่วมกับภาคเอกชนและชุมชนด้วยแนวคิด innovation solution ขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์งานวิจัยและนวัตกรรมนาโนเทคให้มากที่สุด, ขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สมุนไพร 2 ชนิด ได้แก่ กระชายดำ และบัวบก รวมถึงจัดตั้งบริษัทสตาร์ตอัพ 2 บริษัท ในด้านสมุนไพรและการแพทย์ สุดท้ายปลายทางคือ เราคาดหวังจะเพิ่มผู้ที่ได้ประโยชน์จากงานวิจัยและนวัตกรรมของเรา ไม่ว่าจะเป็นบริษัท หน่วยงาน หรือชุมชนที่นำผลงานไปใช้ประโยชน์ วางโจทย์ไว้ว่า จะเพิ่ม 5% จากจำนวนผู้ที่นำผลงานไปใช้ประโยชน์ 2580 ราย 67 องค์กรในปี 2567” ดร. อุรชากล่าว

ผู้อำนวยการนาโนเทคย้ำว่า นอกจากการเชื่อมโยงโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ทั้งภาคอุตสาหกรรม ภาคชุมชน ประชาชนแล้ว นาโนเทคยังทำงานสอดรับกับนโยบายรัฐบาลทั้งในแง่ของนโยบายเร่งด่วนด้านของการสนับสนุนผู้ประกอบการไทย SMEs และการเพิ่มมูลค่าสินค้าการเกษตรและราคาพืชผลเกษตร ยกระดับรายได้เกษตรกร และนโยบายของภาครัฐในระยะกลาง-ยาว ในด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ได้แก่ การส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว และการมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจสุขภาพ และบริการทางการแพทย์ และเดินหน้าคู่ขนานกับนโยบายภาครัฐที่ต้องการยกระดับการบริหารจัดการน้ำ และสานต่อนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอีกด้วย

]]>
นาโนเทค สวทช. รับมอบประกาศนียบัตรมาตรฐานความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการในรูปแบบ Peer Evaluation จาก วช. https://www.nanotec.or.th/th/nanotec-nstda-nrct-esprel-7122024/ Thu, 26 Dec 2024 04:37:10 +0000 https://www.nanotec.or.th/th/?p=25164

วันที่ 17 ธันวาคม 2567 – ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยห้องปฏิบัติการทีมวิจัยระบบหุ่นยนต์และเข็มระดับนาโน และห้องปฏิบัติการกลุ่มวิจัยการวิเคราะห์ระดับนาโนขั้นสูงและความปลอดภัย ได้รับมอบประกาศนียบัตรสำหรับห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยในรูปแบบ Peer Evaluation จากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยมี ดร.วิยงค์ กังวานศุภมงคล รองผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติเข้าร่วมพิธี, ดร.วิทยา พิมทอง หัวหน้าทีมวิจัยความปลอดภัยระดับนาโนและฤทธิ์ทางชีวภาพ และ ดร.จิตาภา สำราญจิตต์ หัวหน้าทีมวิจัยการวิเคราะห์ระดับนาโน เป็นตัวแทนกลุ่มวิจัยการวิเคราะห์ระดับนาโนขั้นสูงความปลอดภัยและสารสนเทศเข้ารับมอบ และ ดร.สุพล มนะเกษตรธาร หัวหน้าทีมวิจัย และสมาชิกทีมวิจัยระบบหุ่นยนต์และเข็มระดับนาโนร่วมมอบที่ ศน.

ซึ่งการตรวจ Peer Evaluation เป็นกระบวนการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก เพื่อรับรองว่าห้องปฏิบัติการมีการดำเนินงานตามแนวปฏิบัติ ESPReL (Enhancing Safety Practices in Research Laboratory) ที่ส่งเสริมการจัดการความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการวิจัย โดยมุ่งเน้นให้ห้องปฏิบัติการมีมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่ชัดเจนและสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาความสามารถและคุณภาพของห้องปฏิบัติการ ตามมาตรฐานการจัดการความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ มอก. 2677

ในการขอทุนสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ผ่านระบบ NRIIS หน่วยงานที่ยื่นขอทุนมักต้องแสดงให้เห็นถึงความสามารถและความน่าเชื่อถือของห้องปฏิบัติการ โดยการปฏิบัติตามมาตรฐาน มอก. 2677 การมีผลการตรวจ Peer Evaluation และการปฏิบัติตามแนวทาง ESPReL จะช่วยเสริมความมั่นใจให้คณะกรรมการพิจารณาทุนว่าโครงการวิจัยมีระบบสนับสนุนที่มั่นคงและปลอดภัย

]]>
นาโนเทค สวทช. จับมือโตโยต้า-สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย สานต่อโครงการ “ชุมชนลดเปลี่ยนโลก” และ “นวัตกรรมเยาวชนลดเปลี่ยนโลก” ปีที่ 2 https://www.nanotec.or.th/th/%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b9%82%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%84-%e0%b8%aa%e0%b8%a7%e0%b8%97%e0%b8%8a-%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b9%82%e0%b8%95%e0%b9%82%e0%b8%a2/ Mon, 23 Dec 2024 03:00:18 +0000 https://www.nanotec.or.th/th/?p=25228

ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ดำเนินโครงการ “ลดเปลี่ยนโลก” ปีที่ 2 ซึ่งเป็นโครงการต่อยอดความสำเร็จจากโครงการ “โตโยต้า ลดเมืองร้อน ด้วยมือเรา” ตั้งแต่ปี 2548 โดยเปิดโอกาสให้โรงเรียนและชุมชนจากทั่วประเทศจัดประกวดแผนงาน ในการลดปัญหาภาวะโลกร้อนในพื้นที่ของตน เพื่อมุ่งเน้นการขยายผลการต่อยอดความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม สู่การสร้างชุมชนต้นแบบที่ดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนต่อไป

โครงการ “ลดเปลี่ยนโลก” ปีที่ 2 เริ่มดำเนินการรับสมัครผู้เข้าแข่งขัน ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยมีโรงเรียนและชุมชนให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 350 แห่งทั่วประเทศ โดยในปีนี้ โครงการฯ มุ่งเน้นให้เกิดการดำเนินงานที่ต่อเนื่องและยั่งยืนมากขึ้น ทั้งในด้านของชุมชน ที่มุ่งเน้นต่อยอดให้เกิดการพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร ควบคู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการจัดการสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ตลอดจนด้านโรงเรียน ที่มุ่งเน้นในการนานวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้จริงในชุมชน ไปจนถึงถ่ายทอดองค์ความรู้จากรุ่นสู่รุ่นต่อไป

นายสุวิทย์ ไชยประสิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า จากปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนภาวะโลกเดือด ที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน โครงการในปีนี้ จึงมุ่งเน้นที่การลงมือปฏิบัติจริงอย่างยั่งยืน โดยนอกเหนือจากการนำองค์ความรู้จากโตโยต้าและพันธมิตร ไปขยายผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ชุมชน และโรงเรียนทั่วประเทศไทย เพื่อให้สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างเป็นรูปธรรมแล้ว เรายังมุ่งเน้นให้มีกระบวนการส่งต่อองค์ความรู้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลง และเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนพันธกิจของประเทศ และโตโยต้า ในการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2050 ต่อไป

โครงการลดเปลี่ยนโลก ประกอบด้วย 2 โครงการย่อย ได้แก่

โครงการ “นวัตกรรมเยาวชนลดเปลี่ยนโลก” นำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ของ สวทช. มาถ่ายทอดสู่สถานศึกษา ผ่านโครงการประกวดผลงานนวัตกรรม สำหรับจัดการปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในระดับโรงเรียน ซึ่ง ดร. อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า สวทช. โดย นาโนเทคนั้น มุ่งมั่นเป็นองค์กรวิจัยชั้นนำที่ใช้ประโยชน์นาโนเทคโนโลยีขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมและพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน นอกเหนือจากการวิจัยและพัฒนา ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งการผลักดันเทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนก็เป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่ทีมวิจัยนาโนเทคให้ความสำคัญและดำเนินการวิจัยพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกิจกรรม “นวัตกรรมเยาวชนลดเปลี่ยนโลก” ภายใต้โครงการ “ลดเปลี่ยนโลก” นี้ จะเป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนความมุ่งมั่นของนาโนเทค ผ่านเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่จะได้นักวิจัยที่มีองค์ความรู้และประสบการณ์ช่วยเป็นพี่เลี้ยง พัฒนาต้นแบบจากแผนการประกวดที่ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย

“ความคิดสร้างสรรค์และมุมมองของคนรุ่นใหม่สู่นวัตกรรมนาโนเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อช่วยลดคาร์บอน ตอบโจทย์ความเป็นกลางทางคาร์บอนนั้น มีความสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เริ่มจากแนวคิด มุมมองของเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ ไปจนถึงการคิดวิเคราะห์เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ช่วยลดมลพิษต่างๆ นำไปสู่ผลงานต้นแบบที่สามารถใช้ประโยชน์ได้จริงในอนาคต” ดร. อุรชากล่าว พร้อมเผยว่า “ในปีนี้ เรายังให้ความสำคัญกับความยั่งยืน โดยผลงานต้นแบบของทีมที่ชนะเลิศ จะถูกต่อยอดเป็นศูนย์การเรียนรู้ในชุมชนหรือสถานศึกษานั้น ๆ เพื่อเป็นผลงานตัวอย่างให้รุ่นน้องได้มาศึกษา เรียนรู้ และเป็นแรงบันดาลใจให้พัฒนาต่อยอดอย่างต่อเนื่อง”

และโครงการ “ชุมชนลดเปลี่ยนโลก” ต่อยอดภูมิปัญญาชาวบ้านและองค์ความรู้จากสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย มาขยายการดำเนินงานเพื่อลดมลพิษ ลดภาวะโลกร้อนในชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้สามารถเป็นต้นแบบในการสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนแก่ชุมชนรอบข้างต่อไป ซึ่ง ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวว่า สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย หรือ TEI ได้ร่วมพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด และเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมของประเทศและระดับภูมิภาค โดยนำองค์ความรู้และประสบการณ์การทำงานด้านสิ่งแวดล้อมกว่า 30 ปี มาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนากระบวนการประกวดให้มีความเข้มข้นมากขึ้นในทุก ๆ ปี

“สถาบันสิ่งแวดล้อมไทยเข้าใจถึงบทบาทและความสำคัญของชุมชนที่เป็นหน่วยพื้นฐานในสังคม และเป็นรากฐานที่สำคัญที่จะต้องผนึกกาลังร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นในการช่วยแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการลดมลพิษ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการทากิจกรรมตั้งแต่ กิจกรรมเล็ก ๆ ในครัวเรือน ไปจนถึงกิจกรรมต่าง ๆ ในระดับชุมชน และในระดับประเทศ หากชุมชนไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม การจะบรรลุเป้าหมายการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศไทยคงเป็นไปได้ยาก เราจึงต้องดึงชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม ทำความเข้าใจ และช่วยกันแก้ไขปัญหา ตลอดจนถอดบทเรียนและขยายผล” ดร.วิจารย์ กล่าว พร้อมเสริมว่า สำหรับโครงการในปีนี้ นอกจากจะให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพิ่มแหล่งดูดกลับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อสนับสนุนการสร้างสังคมที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนแล้ว สถาบันสิ่งแวดล้อมไทยยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างรายได้ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ช่วยแก้ไขปัญหาทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน

ปัจจุบัน โครงการฯ ได้คัดเลือกผู้เข้าแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อย ทั้งในประเภทชุมชนและโรงเรียน โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการฝึกอบรมที่มุ่งเน้นให้ความรู้และทักษะเฉพาะกับผู้เข้าแข่งขันในการพัฒนาโครงการ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าสู่รอบสุดท้าย คือ การลงมือดำเนินงานจริง โดยจะมีการติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อคัดเลือกทีมที่ชนะประเภทละหนึ่งทีมจากทั้งสองประเภท ในช่วงเมษายน 2568 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ทีมที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับโอกาสศึกษาดูงานด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม รวมถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำมาต่อยอดและขยายผลงานให้มีความเหมาะสม ทันสมัย และเกิดความยั่งยืนในอนาคตต่อไป

 

]]>