ฉลอง10 ปีนาโนเทค เปิด10งานวิจัยมุ่งเป้า

นายนิรุตติ คุณวัฒน์ ที่ปรึกษารทว.วท. มอบธงงานวิจัยมุ่งเป้า (NANOTEC Flagship) ให้แก่นักวิจัยนาโนเทค เป็นเป็นสัญลักษณ์ ในการสนับสนุนเชิงนโยบายจากภาครัฐ สู่งานวิจัยที่เป็นรูปธรรมเกิดผลกระทบระดับประเทส
นายนิรุตติ คุณวัฒน์ ที่ปรึกษารทว.วท. มอบธงงานวิจัยมุ่งเป้า (NANOTEC Flagship) ให้แก่นักวิจัยนาโนเทค เพื่อเป็นสัญลักษณ์ ในการสนับสนุนเชิงนโยบายจากภาครัฐ สู่งานวิจัยที่เป็นรูปธรรมเกิดผลกระทบระดับประเทศ

“นาโนเทค”ฉลอง 10 ปี เปิดตัว 10 งานวิจัยมุ่งเป้าด้านนาโนเทคโนโลยี

แก้ปัญหา “ภาคเกษตรสุขภาพอุตสาหกรรมพลังงานและสิ่งแวดล้อม” 

 

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2556 ที่อาคารกลุ่มนวัตกรรม 2 อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี นายนิรุตติ คุณวัฒน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานเปิดงานครบรอบการก่อตั้ง 10 ปี ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยมี ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทค ผู้บริหารศูนย์ฯนักวิจัยและพนักงาน ให้การต้อนรับ

 นายนิรุตติ กล่าวว่า  ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ นับว่าเป็นศูนย์วิจัยด้านนาโนเทคโนโลยีในระดับชาติแห่งแรกในอาเซียนที่ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2546 นับตั้งแต่รัฐบาลในยุคนั้นมีความตั้งใจที่ให้นาโนเทคให้เป็นศูนย์แห่งชาติ ก็เพื่อต้องการให้เห็นชัดเจนว่าประเทศไทยให้ความสนใจในเรื่องนี้อย่างจริงจัง เช่นเดียวกับรัฐบาลโดยการนำของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เล็งเห็นความสำคัญของการนำนาโนเทคโนโลยีมาปรับปรุงและเพิ่มมูลค่าสินค้าไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมอบนโยบายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ นำนาโนเทคโนโลยีมาเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยและส่งเสริมคุณภาพชีวิต ตัวอย่างเช่น การพัฒนาและเพิ่มมูลค่าของผ้าไหมไทยซึ่งเป็นผ้าทอพื้นเมือง  ให้มีความสามารถในการแข่งขันกับนานาประเทศ

และในโอกาสครบรอบ 10 ปี ของศูนย์นาโนเทค ในวันนี้ตนขอแสดงความยินดีและชื่นชมที่ได้เห็นความก้าวหน้าอย่างมากของนาโนเทคโนโลยีในประเทศไทย โดยนาโนเทคมีการวิจัยเทคโนโลยีชั้นสูงที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ซึ่งการพัฒนาประเทศด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนั้น รัฐบาลมีความต้องการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นฐานในการพัฒนาประเทศ ตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำและกลางน้ำทั้งในด้านการเกษตร อุตสาหกรรมและสังคม ที่สำคัญรัฐบาลต้องการให้วิทยาศาสตร์เข้าถึงประชาชนและเกิดประโยชน์ที่เป็นรูปธรรม เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพสังคม และเป็นฐานในการพัฒนาประเทศ

นายนิรุตติ กล่าวว่า ทั้งนี้ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ มีความตั้งใจที่จะวิจัยและพัฒนา งานวิจัยมุ่งเป้า หรือ Flagship Program ซึ่งเป็นงานวิจัยที่มุ่งเน้นเรื่องสำคัญและเป็นประโยชน์กับประเทศ และรัฐบาลอยากจะเห็นว่า Flagship เป็นงานวิจัยที่ช่วยแก้ปัญหาสำคัญและสามารถพัฒนาประเทศไทยได้จริง ซึ่งตนมีความเชื่อมั่นว่า          ศูนย์นาโนเทคฯเป็นกำลังสำคัญที่จะทำเรื่องสำคัญยิ่งของประเทศ โดยมีโครงการวิจัยมุ่งเป้าเป็นจุดมุ่งมั่น และช่วยกันใช้นาโนเทคโนโลยีในการพัฒนาประเทศ โดยกระทรวงวิทย์ฯ จะให้การสนับสนุนการดำเนินการเป็นอย่างดีต่อไป

ด้าน ศ.นพ.สิริฤกษ์ กล่าวว่า ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ มีความตั้งใจที่พัฒนางานวิจัย โดยเฉพาะงานวิจัยมุ่งเป้า หรือ Flagship Programs ที่เปิดตัวในวันนี้เนื่องจากประเทศไทยมีโจทย์ในการแก้ไขปัญหาใหญ่ๆหลายด้าน ซึ่งศูนย์นาโนเทค พยายามที่จะพัฒนางานวิจัยให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการหลักของประชาชนในประเทศ จึงเริ่ม 10 โครงการวิจัยมุ่งเป้า แบ่งเป็นงานวิจัยที่แก้ปัญหาด้านต่างๆ ได้แก่

ด้านการเกษตร ได้แก่ โครงการพัฒนาปุ๋ยนาโนควบคุมการปลดปล่อยและวัสดุปรุงแต่งดินจากการแปรรูปผักตบชวา หรือที่เรียกว่าSmart Soil and Fertilizerและ โครงการใช้นาโนเทคโนโลยเพื่อส่งเสริมการผลิตอาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และเพียงพอ หรือ Q Delicious

          ด้านสุขภาพของประชาชน ได้แก่ โครงการวินิจฉัยและรักษาโรคมะเร็งปากมดลูกซึ่งเป็นมะเร็งลำดับต้นของผู้หญิงไทย หรือ SmartHEALTH โครงการใช้นาโนเทคโนโลยีในการกรองน้ำ หรือ Clean Water และ โครงการควบคุมป้องกันและกำจัดยุง  หรือ Mosquito Control ที่จะช่วยลดอัตราการเจ็บป่วยจากโรคไข้เลือดออกและมาลาเรีย

ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคฯ กล่าวต่อว่า ด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ได้แก่ โครงการผลิตพลังงานทางเลือกโดยใช้นาโนเทคโนโลยี หรือ Green Energy และ เรื่องการทำให้อากาศบริสุทธิ์ หรือ Clean Air และสุดท้าย คือ ด้านการแข่งขันด้านอุตสาหกรรมของประเทศและแนวโน้มโลก ได้แก่ โครงการมาตรฐานและความปลอดภัยด้านนาโนเทคโนโลยี หรือ Nano-mark โครงการนวัตกรรมการใช้เครื่องสำอางและอาหารจากรังไหม หรือ Miracle of Thai silk และ โครงการเพิ่มมูลค่าสิ่งทอด้วยนาโนเทคโนโลยี หรือ NanoTextile  ซึ่งจะทำให้สินค้านาโนของประเทศไทยมีมาตรฐานและปลอดภัย และสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีประสิทธิภาพและมีมาตรฐานในระดับสากล เป็นการนำนวัตกรรมด้านนาโนเทคโนโลยีต่อยอดและปรับใช้กับงานวิจัยด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดนวัตกรรมที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีขึ้น โดยเฉพาะการรองรับสังคมผู้สูงอายุในประเทศไทยที่จะเพิ่มจำนวนมากขึ้นในอนาคตอันใกล้

“ทั้งนี้งานวิจัยมุ่งเป้าทั้ง 10 ด้าน มีการรวมนักวิจัยสาขาต่างๆทั้งในศูนย์นาโนเทค และมหาวิทยาลัยต่างๆกว่า 20 คนต่อ 1งานวิจัย โดยมีระยะเวลาในการดำเนินการ 3 ปี ในระยะสั้นแต่ละงานวิจัยจะต้องทำให้เห็นผลภายใน 1 ปี ซึ่งในต้นปีหน้า ที่จะเห็นเป็นรูปธรรม คือ งานวิจัยด้านการเกษตร คือ โครงการพัฒนาปุ๋ยนาโนควบคุมการปลดปล่อยและวัสดุปรุงแต่งดินจากการแปรรูปผักตบชวา หรือที่เรียกว่าSmart Soil and Fertilizer ซึ่งจะมีโรงงานเคลื่อนที่ในการผลิตวัสดุปรุงแต่งดินจากการแปรรูปผักตบชวากำลังการผลิตสามารถผลิตได้ 8 ตันต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้กำจัดผักตบชวาที่ขวางทางน้ำได้จำนวนมาก ขณะเดียวกัน ยังได้ประโยชน์ในการนำสารปรับปรุงดินจากผักตบชวา ที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดี กักเก็บธาตุอาหาร\ได้ดี น้ำหนักเบาทำให้รากของต้นกล้าพืชกระจายตัวได้ดีและเจริญเติบโตได้ง่ายขึ้น” ผอ.ศูนย์นาโนเทค กล่าว

 

 

/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////