ปีที่ 21 สำหรับนาโนเทค นับเป็นก้าวใหม่ที่ท้าทาย NANOTEC Newsletter ฉบับนี้ จะพาไปรู้จักวิสัยทัศน์ที่ทีมบริหาร นำโดย ดร. เอ-อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย ผู้อำนวยการนาโนเทค พร้อมด้วยรองอีก 4 ท่าน ร่วมกันคิดขึ้น เพื่อขับเคลื่อนให้นาโนเทคเป็นองค์กรวิจัยชั้นนำที่ใช้ประโยชน์นาโนเทคโนโลยี ขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมและพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน พร้อมพันธกิจสำคัญ 3 ด้านไม่ว่าจะเป็น วิจัยและพัฒนาตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรม, ผลักดันเทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน และ ส่งเสริมธุรกิจนวัตกรรม
“ตลอดเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทีมบริหารกำหนดนโยบายการทำงานที่สำคัญและมีกิจกรรมหลายอย่าง ที่เราทำงานร่วมกันใน นาโนเทค เพื่อตอบสนองความต้องการและสร้างประโยชน์ให้กับประชาชน เอกชน และประเทศ นาโนเทคต่อจากนี้ จะยังคงมุ่งมั่นทำงานเพื่อประโยชน์ของทุกฝ่ายต่อไป” ดร. อุรชากล่าว
ทิศทางการดำเนินงานของนาโนเทคใน 4 ปีข้างหน้า เน้นกำหนดทิศทางและขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติสอดรับกับเป้าประสงค์การก่อตั้งศูนย์ฯ ภายใต้วิสัยทัศน์ “เป็นองค์กรวิจัยชั้นนำที่ใช้ประโยชน์นาโนเทคโนโลยีขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมและพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน” โดยมีแผนปฏิบัติการหลัก ได้แก่ การเพิ่มการใช้ประโยชน์นาโนเทคโนโลยีในภาคอุตสาหกรรมและชุมชน การขับเคลื่อนงานวิจัยขนาดใหญ่ที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง บริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานให้มีความคุ้มค่า โดยคงความเป็นเลิศทางวิชาการร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร เพื่อสร้างความเข้มแข็งขององค์กรอย่างยั่งยืน ครอบคลุม 4 Strategic focus ได้แก่ สารสกัดสมุนไพร ชุดตรวจสุขภาวะ เกษตรและอาหาร น้ำและสิ่งแวดล้อม
และทีมบริหารฯ จัดตั้งวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ หรือ Strategic Objectives: SO ที่ครอบคลุมผู้เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรม ชุมชน ประชาชน ประเทศ รวมถึงองค์กรของเรา อันได้แก่
- เพิ่มการใช้ประโยชน์นาโนเทคโนโลยีในภาคอุตสาหกรรมและชุมชน
- ขับเคลื่อนงานวิจัยขนาดใหญ่ที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง
- บริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานให้มีความคุ้มค่า
- คงความเป็นเลิศทางวิชาการร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร
- สร้างความเข้มแข็งขององค์กรอย่างยั่งยืน
สำหรับสัดส่วนการจัดการงบประมาณ ในปี 2568 โดยปรับสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 65:35 เพื่อรองรับการทำงานที่คล่องตัวมากขึ้น บ่มเพาะและผลักดันให้เกิดการวิจัยและพัฒนามากขึ้น เกิดนวัตกรรมออกสู่การใช้ประโยชน์อย่างต่อเนื่องและตอบความต้องการใช้งานในทุกภาคส่วน
ประเทศจะได้อะไร?
เป้าหมายการดำเนินการและบริหารจัดการนาโนเทคในอีก 4 ปีข้างหน้า สิ่งที่จะเห็นก่อน (Quick Win) ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2568 ได้แก่ แผนกลยุทธ์ 2568-2571, แผนปฏิบัติการ พ.ศ. 2568 และการเตรียม National Nanotechnology Roadmap (2568-2571)
ในขณะเดียวกัน ก็เดินหน้า 4 NANOTEC Strategic focus ได้แก่ สารสกัดสมุนไพร, ชุดตรวจสุขภาวะ, เกษตรและอาหาร และ น้ำและสิ่งแวดล้อม พร้อมหนุนเกิด 4 Core team สร้างผลงานวิจัยเร่งด่วน และขยายผล
เป้าหมายที่ตั้งไว้อีกหนึ่งเรื่องคือ การเพิ่มรายรับจากภาคอุตสาหกรรมปีละ 10% ทุกปี โดยอาศัย 4 กลยุทธ์ สู่การขับเคลื่อนนาโนเทคให้สามารถทำได้ตามเป้าที่วางไว้ ได้แก่
- ขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์งานวิจัยและโครงสร้างพื้นฐาน (R&D and infrastructure utilization) ร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายภายใต้บทบาท solution partner
- ร่วมมือกับพันธมิตรที่สำคัญและสอดประสานเสริมแรงด้วยกลไก triple-quadruple helix เพื่อขับเคลื่อนสู่การใช้ประโยชน์
- สร้างความเข้มแข็งและความเชี่ยวชาญจากเทคโนโลยีเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ Technology to Innovation
- สนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาทักษะของบุคลากร Organization and People capabilities เพื่อสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน
โดย 5 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายในการขับเคลื่อน ปี 2568-2571 ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์, กลุ่มอุตสาหกรรมสมุนไพร, กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง อาหารเสริมและยา, กลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร และกลุ่มอุตสาหกรรมเคมี/ปิโตรเคมี
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ความร่วมมือในการต่อยอด “สารสกัดกระชายดำ” สู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ กับ SNPS หรือบริษัท สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) ที่ลงนามอนุญาตให้สิทธิใช้ประโยชน์ผลงานวิจัย ร่วมขับเคลื่อนงานวิจัยสู่ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมกลุ่ม Active ingredients ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง-เสริมอาหาร รับความต้องการตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามของโลก หนุนโมเดลเกษตรกรรมแบบยั่งยืน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยกลไก S&T for Sustainable Thailand ของ สวทช.
“ท้ายที่สุด คนไทยจะต้องได้ใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัยนาโนเทค ที่มุ่งเป้าเพื่อแก้ไขปัญหาตามโจทย์ความต้องการของประเทศ ยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ เสริมแกร่งความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงในสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น นาโนเทคเราได้มีส่วนร่วมกับกระทรวง อว. นำผลงานวิจัยของนาโนเทคไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วน ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจที่เราได้นำงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ในสถานการณ์ที่จำเป็นอย่างแท้จริง” ผู้บริหารนาโนเทคย้ำ