วันที่ 23 มกราคม 2568 ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ปทุมธานี - ดร. อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พร้อมด้วยดร. วิยงค์ กังวานศุภมงคล รองผู้อำนวยการนาโนเทค ดร. ศิวพร มีจู สมิธ รักษาการรองผู้อำนวยการนาโนเทค และคุณศันสนีย์ ฮวบสมบูรณ์ รองผู้อำนวยการนาโนเทค พร้อมด้วยคณะนักวิจัยนาโนเทค ร่วมต้อนรับคณะจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ( ส.อ.ท.) กลุ่มอุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม นำโดยคุณวิวรรธน์ เหมมณฑารพ รองประธาน ส.อ.ท. และ ประธานสถาบันนวัตกรรม พร้อมด้วยคุณนาคาญ์ ทวิชาวัฒน์ ประธานกรรมการคลัสเตอร์อุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม ส.อ.ท. และสมาชิก ส.อ.ท. ที่เข้าร่วมงานขุมพลังสมุนไพรไทยสู่อนาคตแห่งอุตสาหกรรมสมุนไพรโลก ภายใต้โครงการสร้างความร่วมมือระหว่างสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กลุ่มอุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม และนาโนเทค สวทช. พร้อมรับฟังการนำเสนอศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม อาทิ สารสกัดกระชายดำ และอนุภาคกักเก็บสารสำคัญจากกระชายดำที่พร้อมอนุญาตสิทธิใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยให้กลุ่มสมาชิก ส.อ.ท. และกระบวนการสกัดสารสกัดที่น่าสนใจสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและอาหาร/เครื่องดื่ม อาทิ สารสกัดเห็ดหลินจือ, สารสกัดจากดอกดาวเรือง, สารสกัดจากน้ำมันฟักข้าว นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอข้อมูลโรงงานต้นแบบผลิตอนุภาคนาโน เพื่อผลิตภัณฑ์อาหารและเสริมอาหาร, บริการวิเคราะห์ทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัย และกรณีศึกษาเรื่อง ความสำเร็จจากห้องปฏิบัติการสู่ผู้ประกอบการ บริษัท โครโนไลฟ์ จำกัด ดีปเทคสตาร์ทอัพจากงานวิจัยของนาโนเทค สวทช. อีกด้วย
ดร. อุรชา กล่าวว่า สมุนไพรไทย เป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติที่มีสมบัติทางเคมีที่มีประโยชน์หลากหลายมิติ ซึ่งการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาช่วยเสริมศักยภาพ ประสิทธิภาพให้กับสมุนไพรนั้น นับเป็นการยกระดับสมุนไพร และสารสกัดสมุนไพรให้ดียิ่งขึ้น โดยในวันนี้ นาโนเทค สวทช. เองได้คัดเลือกผลงานวิจัยและสตาร์ทอัพมานำเสนอ ด้วยหวังเป็น Research Hub สำหรับการวิจัยพัฒนาและวิเคราะห์ทดสอบ เพื่อต่อยอดสู่ความร่วมมือในอนาคต
เช่นเดียวกับคุณนาคาญ์ ประธานกรรมการคลัสเตอร์อุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม ส.อ.ท. กล่าวว่า สวทช. โดยนาโนเทค มีเทคโนโลยี หลายอย่างที่เปิดให้ผู้ประกอบการมาเลือกใช้ ดังนั้น ในวันนี้นอกจากจะมีผู้ประกอบการที่สนใจร่วมมือกันในงานวิจัยพร้อมใช้ ยังมีโอกาสสำหรับการวิจัยร่วม ที่สามารถสนับสนุนกันได้ เอื้อต่อผู้ประกอบการในด้านของการลดต้นทุน สร้างจุดขายด้านนวัตกรรม เสริมประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ ด้วยมองว่า นาโนเทคเป็นปลายหอกช่วยให้อุตสาหกรรม โดยเฉพาะในกลุ่มสุขภาพและความงามแข็งแกร่งขึ้น และคาดว่า นอกจากครั้งนี้ที่เป็นกิจกรรมนำร่อง ก็จะมีการต่อยอดในคลัสเตอร์อื่นๆ เพื่อเป็นการติดอาวุธให้ผู้ประกอบการไทยสามารถต่อสู่บนเวทีโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ