การศึกษาผลของ ROS และ Cav- 1ต่อการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง

งานวิจัยเรื่อง “Regulation of Lung Cancer Cell Migration and Invasion by Reactive Oxygen Species and Caveolin-1” เป็นผลงานความร่วมมือระหว่างนักวิจัยของศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัย West Virginia ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Caveolin – 1 (Cav – 1) มีบทบาทสำคัญในการแผ่กระจาย และลุกลามของเซลล์มะเร็งปอดของมนุษย์ และผลจากโปรตีน Caveolin-1 จะแสดงผลแตกต่างกันออกไปตาม reactive oxygen species (ROS) ที่แตกต่างกัน ในบทสรุปได้ให้ข้อเสนอแนะในการศึกษาบทบาทที่สำคัญของความแตกต่างของ ROS และ Cav-1ในการลุกลามของเซลล์มะเร็ง  ซึ่งอาจเป็นกุญแจสำคัญในกระบวนการควบคุมการกระจายตัวของเซลล์มะเร็งได้ สามารถอ่านเอกสารเพิ่มเติมได้ที่  : http://www.uphs.upenn.edu/ifem/ins/documents/%289-8-11%29%20Marotta.pdf

งานวิจัยเรื่องยาปลูกผมได้รับรางวัลในงานประชุมวิชาการที่ประเทศเกาหลี

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2554 ในงาน ” 2011 Asia Woman Eco-Science Forum” ดร.อภิรดา สุคนธ์พันธ์ นักวิจัยสาวจากห้องปฏิบัติการนาโนเวชสำอาง ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ มีโอกาศนำเสนอผลงานวิจัยเรื่อง “Herbal Extracts and Formulation Development of Nanoemulsions for Hair Growth” หรือการสกัดและการพัฒนาปรับปรุงสูตรสมุนไพรโดยใช้นาโนเทคโนโลยีทำให้อิมัลชั่นอยู่ในระดับนาโน เพื่อใช้ในการเจริญเติบโตของเส้นผม ซึ่งงานวิจัยนี้ได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการและผู้เ้ข้าร่วมประชุม ให้เป็น 1 ใน 4 ผลงานวิจัยที่ได้รับรางวัล “2011 AWESF-AMORE PACIFIC AWARD” ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลี งานวิจัยนี้ ดร.อภิรดา ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการนำเอานาโนเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับของเสียทางการเกษตร  เช่น รำข้าว โดยการปรับปรุงประสิทธิภาพของน้ำมันรำข้าวให้มีความสามารถในการซึมผ่านชั้นผิวหนังได้ง่ายโดยอาศัยกรรมวิธีทางด้านนาโนเทคโนโลยี ทำให้อิมัลชั่นมีขนาดเล็กระดับนาโนเมตรจึงสามารถซึมผ่านหนังศีรษะ และเร่งการเจริญเติบโตของเส้นได้ ซึ่งงานวิจัยนี้ถูกนำเสนอในหัวข้อการประชุม Eco-friendly Forum โดยงานวิจัยนี้แสดงให้เห็นการเพิ่มมูลค่าให้กับของเสียจากการเกษตร เพิ่มประสิทธิภาพในการบำบัดรักษา และลดองค์ประกอบที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ให้น้อยลง […]

การบำบัดน้ำเสียที่มีสารประกอบฟีนอลโดยใช้ถังหมักฟลูอิไดซ์เบส

คณะนักวิจัยจากศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติได้มีการศึกษาและพัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียที่มีการปนเปื้อนของสารฟีนอลโดยการออกแบบระบบบำบัดชั้นลอยตัว (fluidized bed reactor) แบบต่อเนื่อง 3 ขั้นตอนโดยทำการศึกษาผลการทดลองกับตัวอย่างการปนเปื้อน 7 กรณีศึกษา “สารประกอบฟีนอลเป็นสารที่อุตสาหกรรมต่างๆ เลือกใช้ แต่เป็นที่รู้กันดีว่าสารประกอบฟีนอลเหล่านั้นมีความเป็นพิษสูง มีฤทธิ์กัดกร่อน สามารถทำลายชั้นผิวหนัีงแลแะเนื้อเยื่อของสิ่งมีชีวิต แล้วสารประกอบฟีนอลบางประเภทยังเป้นสารก่อมะเร็งอีกด้วย เนื่องจากสารประกอบฟีนอลมีความสามารถในการผ่านเข้าสู่ชั้นผิวหนังโดยผ่านชั้นไขมันส่งผลกระทบไปยังตับ ทำให้ปัสสาวะมีสีเข้ม และอาจส่งให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำการบำบัดน้ำเสียอุตสาหกรรมที่มีการปนเปื้อนของสารประกอบฟีนอลก่อนปล่อยออกแหล่งน้ำเพื่อเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อม” ดร.ประธาน วงศ์ศริเวช นักวิจัยห้องปฏิบัติการวัสดุนาโนเพื่อพลังงานและการเร่งปฏิกิริยา ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ กระบวนการบำบัดน้ำเสียที่มีการปนเปื้อนสารประกอบฟีนอลโดยอาศัยการใช้โอโซน (Ozone) ถ่านกัมมันต์ (Activated Carbon) สารซีโอไลต์ (Zeolite) หรือสารที่มีคุณสมบัติในการบำบัดสารประกอบฟีนอล เติมลงในถังยำยัดแบบลอยตัว โครงการนี้นาโนเทคได้รับความร่วมจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (บางมด) งานวิจัยนี้ได้ทำการตีพิมพ์เผยแพร่ใน Chinese  Journal of Chemical Engineering

ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ Asia Nano Forum Summit 2012

เมื่อวันที่ 9-10 ตุลาคมที่ผ่านมา ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติได้เข้าร่วมการประชุม นานาชาติ Asia Nano Forum (ANF) จัดขึ้น ณ  กรุงเตห์ราน ประเทศอิหร่าน สมาชิกในกลุ่ม Asia Nano Forum  ตอบรับข้อเสนอที่ให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุม Asia Nano Forum  2012 ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2555  “เรารู้สึกเป็นเกียรติ และมีความยินดีที่ได้รับโอกาสเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุม Asia Nano Forum  Summit 2012  ซึ่งเป็นการแสดงในให้นานาชาติเห็นความสามารถในการพัฒนาด้านนาโนเทคโนโลยีของประเทศไทย รวมถึงการแสดงผลงานวิจัย และเปิดโอกาสให้สมาชิกในกลุ่ม ANF แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และข้อมูลงานวิจัย” ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ กล่าวในงาน  Asia Nano Forum  Summit 2011 ณ  กรุงเตห์ราน ประเทศอิหร่าน ดร.ศิรศักดิ์ เทพาคำ รองผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ กล่าว “ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติได้แบ่งดำเนินงานวิจัยออกเป็น 7 […]

NANOTEC ร่วมกับ UNITAR สนับสนุนการสร้างความตระหนักในด้านความปลอดภัยของนาโนเทคโนโลยีในประเทศไทย

ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติร่วมกับสถาบัน UNITAR (United Nation Institute for Training and Research) สนับสนุึนด้านการจัดฝึกอบรม และสร้างอาคารสถานที่เพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการนำร่องทางด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับนาโนเทคโนโลยีในประเทศไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนในการจัดฝึกอบรมจากรัฐบาลประเทศสวีเดน ในช่วงเวลา 18 เดือนแรก ศูนย์นาเทคฯ จะจัดรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ และสร้างความตระหนักทางด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับนาโนเทคโนโลยี โดยร่วมมือกับหน่วยงานภายในประเทศในการดำเนินงานการจัดอบรม และสร้างสถานที่เพื่อใช้ในการนำร่องการสนับสนุนการเผยแพร่ความตระหนักด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับนาโนเทคโนโลยี เพราะมีสำคัญในการเผยแพร่ให้ประชาชนได้รู้จัก เข้าใจถึงผลิตภัณฑ์ทางด้านนาโนเทคโนโลยี และการใช้ผลิตภัณฑ์ได้ถูกวิธี โดยทั้งสองหน่วยงานเห็นพร้องกันเกี่ยวกับความปลอดภัยทางด้านนาโนเทคโนโลยีนั้นเป็นกุญแจหลักในการปกป้องสุขภาพของประชาชน และสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย เนื่องด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ทางด้านนาโนเทคโนโลยีอย่างกว้างขวาง หากไม่มีการจัดการทั้งการใช้ และการกำจัดอย่างถููกวิธีก็จะส่งผลเสียได้จึงมีความจำเป็นที่ให้หน่วยงานระดับชาติเข้ามาจัดการดูแลผลิตภัณฑ์เหหล่านั้น ซึ่งการโครงการ และจัดฝึกอบรมนั้นจะครอบคลุมถึง : การตั้งคณะกรรมการความปลอดภัยทางด้านนาโนฯ เพื่อช่วยในการประสานงาน การจัดตั้งโครงการ และการจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับความปลอดภัยทางด้านนาโนฯ การจัดทำแผนความปลอดภัยทางด้านนาโนฯให้ทันกับสถานการณ์ปัจจุบัน พัฒนานโยบายของชาติเกี่ยวกับความปลอดภัยทางด้านนาโนฯ การจัดฝึกอบรมให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยทางด้านนาโนฯ การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการและการให้ใบรับรอง การประเมินและติดตามผล

iGuard Nano นวัตกรรมเพื่อคนรักษ์สุขภาพ

ผ่านไปแล้วกับงาน NSTDA Investor’sDay 2011 ซึ่งได้รับเกียรติจาก ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวเปิดงาน โดยล่าวถึงแนวนโยบายของรัฐบาลและกระทรวง วิทย์ฯ ในการพัฒนาประเทศและขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีว่า “จากคำแถลงนโยบายของรัฐบาลของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี คุณยิ่งลักษณ์ชินวัตร ต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2554 ที่ผ่านมานั้น ได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรม รวมไปถึงการพัฒนาบุคลากรโดยมีการกำหนดนโยบายเพื่อให้มีการพัฒนาอย่างมี คุณภาพ สมดุล ยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมไปถึงการเร่งสร้างนักวิทยาศาสตร์ เร่งสร้างงานวิจัยซึ่งเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญในการพัฒนาประเทศโดยวาง เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ และกล่าวทิ้งท้ายถึงการสนับสนุนอย่าง จริงจังของรัฐบาลและกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีว่า”รัฐบาลจะเพิ่มงบอุด หนุนการวิจัยเป็น2% ของจีดีพี จากเดิม 0.2% ของจีดีพีเพื่อผลักดันงานวิจัยเชิงนวัตกรรม ให้เกิดการต่อยอดและเชื่อมโยงกับภาคธุรกิจ โดยการนำภูมิปัญญาไทยมาเป็นจุดแข็งสำหรับการเชื่อมโยงกันระหว่างนักวิจัยไทย และนักลงทุน” iGuard Nano หนึ่งใน5 ผลงานเด่นของสวทช. เป็นนวัตกรรมเพื่อคนรักษ์สุขภาพ ด้วยคุณสมบัติที่แตกต่างกับแผ่นกรองในท้องตลาด ที่มีความสามารถในการกำจัดเชื้อรา แบคทีเรีย และไวรัส ภายในแผ่นเดียวกัน แล้วอาจรวมถึงกลิ่นที่ไม่พึ่งประสงค์ และแก๊สบางประเภทได้ เมื่อแผ่นกรองทำงานภายใต้แสงยูวี […]

1 72 73 74 79