เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) นำโดย ดร.วรรณี ฉินศิริกุล ผู้อำนวยการนาโนเทค พร้อมด้วยผู้บริหาร และนักวิจัย เข้าเยี่ยมชมเหมืองแม่เมาะ และการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แนวทางการวิจัยพัฒนา และหารือความร่วมมือด้านเทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (CCUS technology) ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อรวบรวมข้อมูลสำคัญภายใต้การดำเนินโครงการแผนที่นำทางเทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน เพื่อนำทางประเทศไทยไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (CCUS TRM : Navigating Thailand towards Carbon Neutrality) ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก ดร.พงษ์วิภา หล่อสมบูรณ์ ผู้เชี่ยวชาญระดับสูง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.) ในฐานะผู้แทนแหล่งทุนอุดหนุนวิจัยเข้าร่วมกิจกรรมลงพื้นที่ พร้อมด้วยเครือข่ายพันธมิตรภายใต้โครงการฯ นำโดย รศ. ดร. ณัฐสิทธิ์ เกิดศรี หัวหน้าทีมวิจัยและปฏิบัติการด้านการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือ TIME Labs ม.มหิดล และ ผศ.ดร.สุพฤทธิ์ ตั้งพฤทธิ์กุล และคณาจารย์จากคณะวิศกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
การลงพื้นที่ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อรับฟังแนวทางการดำเนินงานวิจัยและพัฒนาด้าน CCUS technology ของ กฟผ. โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวกับโรงไฟฟ้าถ่านหิน และการศึกษาความเป็นไปได้ของการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture Storage: CCS) ของ กฟผ. ตลอดจนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ด้าน CCUS technology เพื่อประกอบการจัดทำโครงการ CCUS Technology Roadmap ของทีมวิจัยนาโนเทค และเครือข่ายพันธมิตร รวมทั้งหารือแนวทางความร่วมมือการวิจัยพัฒนา CCUS technology ร่วมกันในฐานะเครือข่ายนักวิจัยทางด้าน CCS และ CCU
ภายใต้กิจกรรม ณ ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (แม่เมาะ) นายประจวบ ดอนคำมูล ผู้ช่วยผู้ว่าการเหมืองแม่เมาะ (ชชม.) ได้ให้เกียรติกล่าวต้อนรับทีมเยี่ยมชมฯ พร้อมให้ข้อมูลภารกิจหลักของ กฟผ.แม่เมาะ ด้านการการผลิตไฟฟ้าโดยใช้ถ่านหินลิกไนต์ และแผนการดำเนินงานที่มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยมีแผนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm) แม่เมาะ เพื่อนำร่องติดตั้งใช้ในการดำเนินงานในการทำเหมือง และยังได้วางแผนพัฒนาต่อเนื่องไปจนถึงปี 2592 ให้สามารถมีกำลังผลิตรวม 2,405 เมกะวัตต์ รวมทั้งโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ เพื่อทำหน้าที่เป็นแบตเตอรี่ร่วมกับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และการศึกษาความเป็นไปได้ของการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture Storage: CCS) รวมถึง โครงการทดลองนำชีวมวลอัดเม็ดเผาไหม้ร่วมกับถ่านหินของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ
ดร.วรรณี กล่าวว่า การลงพื้นที่ กฟผ. แม่เมาะในครั้งนี้ ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการจัดทำโครงการ CCUS Technology Roadmap โดย กฟผ. แม่เมาะ ถือเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทและให้ความสำคัญต่อนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ของไทย ภายใต้การประยุกต์ใช้ CCUS technology และการใช้พลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ของ กฟผ. ถือได้ว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะสามารถร่วมกันขับเคลื่อน CCUS TRM ให้เชื่อมโยงเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศในอนาคตอันใกล้ต่อไป
ข้อมูลและภาพ: ทีมเลขา CCUS TRM