NANOCATALYSIS, ADSORPTION, AND SIMULATION RESEARCH GROUP

การเร่งปฏิกิริยาระดับนาโน การดูดซับ และการคำนวณ

กลุ่มวิจัยการเร่งปฏิกิริยาระดับนาโน การดูดซับ และการคำนวณ (NCAS) เป็นกลุ่มวิจัยภายใต้ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (ศน.) ที่มุ่งเน้นงานวิจัยด้านการออกแบบ สังเคราะห์ ขึ้นรูปและวิศวกรรม วัสดุนาโนเพื่อประยุกต์ใช้งานด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน โดยใช้กระบวนการทดลองร่วมกับการใช้เทคนิคเชิงคำนวณในระดับต่างๆ รวมไปถึงระบบเครือข่ายสำหรับติดตามและควบคุม (IoT) อันประกอบด้วยงานวิจัยทางด้าน 1) ตัวเร่งปฏิกิริยา ตัวดูดซับ เยื่อเลือกผ่านและวัสดุนาโนขั้นสูงต่างๆ เช่น นาโนคาร์บอน วัสดุโครงข่ายโลหะอินทรีย์ วัสดุนาโนคอมพอสิต นาโนลิกโนเซลลูโลส เป็นต้น 2) กระบวนการดักจับและใช้ประโยชน์ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ กระบวนการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ พลังงานหมุนเวียนสะอาด สารเคมีฐานชีวภาพ สารเคมีมูลค่าเพิ่ม วัสดุชีวภาพ และ กระบวนการบำบัดสิ่งแวดล้อม 3) งานวิจัยและพัฒนาด้านการคำนวณ รวมถึงการใช้เทคนิคการจำลองต่าง ๆ ตั้งแต่ระดับอะตอมจนถึงระดับที่ใหญ่ขึ้น และการใช้ IoT สำหรับการวิเคราะห์และวินิจฉัยปัญหาสำคัญระดับชาติ การวิจัยและพัฒนาด้วยวิธีคำนวณ ได้แก่ การใช้เทคนิค และ IoT เพื่อการวิเคราะห์ วินิจฉัย ปัญหาสำคัญต่าง ๆ ของประเทศ เพื่อยกระดับให้ศน. เป็นองค์กรวิจัยและพัฒนาชั้นนำด้านนาโนเทคโนโลยีของอาเซียน และ NCAS จะเป็นต้นแบบหน่วยวิจัยชั้นนำระดับนานาชาติในการบูรณาการประยุกต์ใช้นาโนเทคโนโลยีในการพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตอย่างปลอดภัยและยั่งยืน

ผลงานวิจัยเด่นของกลุ่มวิจัย (Key Research)

Key Research 1 : กระบวนการดักจับคาร์บอนและการใช้ประโยชน์ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

          เทคโนโลยีด้านวัสดุและระบบสำหรับกระบวนการดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และการใช้ประโยชน์ CO2 ผ่านกระบวนการเร่งปฏิกิริยาเชิงความร้อน ไฟฟ้า และแสง เพื่อได้เป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงและจำเป็นสำหรับภาคอุตสาหกรรม ได้แก่ ก๊าซสังเคราะห์ (syngas) เมทานอล โอเลฟินส์ และนาโนคาร์บอน สำหรับอุตสาหกรรมพลังงาน และพลาสติก การดักจับ CO2 โดยตรง (direct carbon capture) ด้วยเทคโนโลยี solid adsorption และ ทางอ้อม (nature-based carbon capture) ผ่านตัวกลางชีวมวล ด้วยเทคโนโลยี Activated nanocarbon, Biocoal และ Biojet (SAF) สำหรับอุตสาหกรรมพลังงานและ BCG เพื่อเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutrality) ของประเทศไทย

รางวัลที่ได้รับ

  1. รางวัลผลงานวิจัยระดับดี ประจำปีงบประมาณ 2566 และ 2567 จาก สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
  2. รางวัลทุนวิจัยลอรีอัล ประเทศไทย “เพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์” ประจำปี 2567
  3. รางวัลเหรียญเงินในการประกวด ผลงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมในเวที SPECIAL EDITION 2022 – INVENTION GENEVA EVALUATIONDAYS ณ สมาพันธรัฐสวิส

งาน/การประชุม/การแข่งขัน ที่เกี่ยวข้องกับรางวัลที่ได้รับ

  1. งานวันนักประดิษฐ์ ประจำปี 2566 และ 2567
  2. งานมอบทุนวิจัยในโครงการทุนวิจัย ลอรีอัล ประเทศไทย ประจำปี 2567
  3. การประกวด ผลงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมในเวที SPECIAL EDITION 2022 – INVENTION GENEVA EVALUATIONDAYS ณ สมาพันธรัฐสวิส ในรูปแบบออนไลน์

Key Research 2 : การพัฒนาคุณภาพน้ำอุปโภคบริโภคที่มีการปนเปื้อนมลสารซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม

          ระบบประปาชุมชนหรือประปาหมู่บ้านของไทยส่วนใหญ่ถูกติดตั้งเป็นเวลานานทำให้ทั้งโครงสร้างและอุปกรณ์ที่ใช้เกิดการเสื่อมคุณภาพ อีกทั้งด้วยคุณภาพน้ำดิบที่แย่ลง มีการปนเปื้อนสารเคมี สารพิษต่างๆมากขึ้น ส่งผลต่อสุขภาวการณ์เจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆมากขึ้นด้วย รวมถึงหลายแห่งยังขาดการดูแลที่ถูกต้อง ทำให้ระบบต่างๆนั้นมีประสิทธิภาพที่ต่ำลง ใช้ต้นทุนสูงขึ้น จนบางพื้นที่ต้องหยุดให้บริการในที่สุด ทีมวิจัยได้ดำเนินการศึกษาวิจัยในการบรรเทาปัญหาดังกล่าวในหลายมิติเช่น การพัฒนานวัตกรรมวัสดุดูดซับสารเคมีและโลหะหนักด้วยเทคนิคการเคลือบและปรับปรุงพื้นผิวด้วยนาโนเทคโนโลยีต่างๆ  (Surface nanocoating and modifying) เช่น ถ่านกัมมันต์ปรับปรุงพื้นผิว (Doped/Modified Activated Carbon) ถ่านกระดูกปรับปรุงพื้นผิว (Modified Bone char) วัสดุเซรามิคส์สำหรับการกรองและดูดซับ เป็นต้น รวมถึงการประยุกต์ใช้วัสดุเหลือทิ้งในชุมชนเช่น เปลือกกล้วย เปลือกไข่ ที่สามารถหาได้ง่ายแต่มีประสิทธิภาพมาใช้ในการช่วยลดปริมาณสารตกค้างในน้ำดื่ม น้ำใช้ของประชาชนได้ นอกจากนี้ทีมวิจัยยังได้พัฒนาแนวทางในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตน้ำของระบบให้สามารถผลิตน้ำ เช่น การใช้สารช่วยตกตะกอนเช่น PAC (Poly Aluminium Chloride) ทดแทนสารส้มซึ่งสามารถจับกลุ่มตะกอนได้ดีกว่า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตน้ำของระบบเดิมได้แม้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ที่ติดตั้ง การติดตั้งแผ่นช่วยตกตะกอน (Tube/Lamella settler) ที่มีการปรับปรุงพื้นผิวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตกตะกอน ลดการอุดตันหน้าทรายกรอง รวมถึงมีการพัฒนาชุดอุปกรณ์วัดความขุ่นแบบท่อชนิดแผ่นสังเกตเคลื่อนที่ (Turbid Tube) ที่ช่วยให้ทราบค่าความขุ่นของน้ำดิบที่แม่นยำขึ้น ใช้งานร่วมกับชุดอุปกรณ์ทดสอบปริมาณสารส้ม (Mini Jar test) ในการทดสอบการตกตะกอนทางเคมีของน้ำตัวอย่างก่อนจะปรับใช้ระบบผลิตน้ำจริง ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถหาปริมาณสารเคมีที่เหมาะสมที่สุดในการสร้างตะกอนได้โดยไม่ต้องใช้ห้องปฏิบัติการมาตรฐานหรืออุปกรณ์ที่มีราคาสูง ลดค่าใช้จ่ายในการผลิตน้ำ รวมถึงลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความเสี่ยงต่อสุขภาพเนื่องมาจากใช้สารเคมีเกินได้ โดยเป้าหมายหลักของการวิจัยคือการสร้างให้ชุมชนสามารถจัดการกระบวนการผลิตน้ำของตนเองได้อย่างมีมาตรฐานและยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสม

รางวัลที่ได้รับ

รางวัล Popular Vote บูธนิทรรศการยอดเยี่ยม

งาน/การประชุม/การแข่งขัน ที่เกี่ยวข้องกับรางวัลที่ได้รับ

งานประกวดและนิทรรศการ “ชุมชนนวัตกรรมแห่งการเรียนรู้” ครั้งที่ 2

Key Research 3 : การค้นหาตัวเร่งปฏิกิริยาเพื่อผลิตพลังงานไฮโดรเจนด้วยปัญญาประดิษฐ์และการคำนวณเคมีคอมพิวเตอร์

ไฮโดรเจนเป็นพลังงานทางเลือกที่ปัจจุบันได้รับการศึกษาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากไฮเดรเจนเป็นพลังงานสะอาด ไม่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการเผาไหม้ นอกจากนี้กระบวนการการผลิตไฮโดรเจนยังสามารถทำได้โดยการแยกโมเลกุลน้ำ (H2O) ออกเป็น แก๊สไฮโดรเจน (H2) และ ออกซิเจน (O2) ด้วยเซลล์ไฟฟ้าเคมี ซึ่งไม่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตเช่นกัน ทำให้ไฮโดรเจนเป็นพลังงานสะอาดอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตามปฏิกิริยาการผลิตไฮโดรเจนที่ขั้วไฟฟ้าแคโทดของเซลล์ไฟฟ้าเคมี ยังมีความจำเป็นต้องใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาจากโลหะแพลทินัมซึ่งมีราคาสูงมาก

เพื่อค้นหาตัวเร่งปฏิกิริยาชนิดใหม่ที่มีราคาถูกและมีประสิทธิภาพสูงเพื่อทดแทนโลหะแพลทินัม ทีมวิจัยได้พัฒนาโมเดลปัญญาประดิษฐ์เพื่อช่วยเหลือในการคัดเลือกตัวเร่งปฏิกิริยาที่ดีที่สุดจากความเป็นไปได้ปริมาณมาก ทำให้สามารถลดเวลาและทรัพยากรที่ต้องใช้ อันเนื่องมาจากความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถเรียนรู้โครงสร้างของสารเคมีและคุณสมบัติของตัวเร่งปฏิกิริยาและสามารถนำไปใช้ทำนายคุณสมบัติของตัวเร่งปฏิกิริยาชนิดใกล้เคียงกันได้ โดยได้พัฒนาสถาปัตยกรรมแบบจำลองชนิด crystal graph convolutional neural network (CGCNN) ที่สามารถเรียนรู้โครงสร้างเคมีของตัวเร่งปฏิกิริยาได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านการบวนการวิศวกรรมคุณลักษณะ (Feature Engineering) โดยการประยุกต์ใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์ดังกล่าวเช้ากับระเบียบวิธีคำนวณ Density functional theory จะช่วยทำให้การค้นหาตัวเร่งปฏิกิริยาชนิดใหม่สำหรับการใช้แทนที่ตัวเร่งปฏิกิริยาจากแพลทินัมที่มีราคาสูง

กลุ่มของตัวเร่งปฏิกิริยาที่ทางทีมวิจัยศึกษาและพัฒนาในงานนี้ได้แก่ตัวเร่งปฏิกิริยาชนิดอะตอมคู่ (Dual Atom Catalyst, DAC) ที่ประกอบด้วยคู่ของโลหะอะตอมเดี่ยวเจือบนแผ่น N-doped graphene ซึ่งกำลังได้รับความสนใจและการศึกษาคุณสมบัติ เนื่องจากมีความเสถียรและ %loading ของโลหะเจือที่สูง นอกจากนั้นยังมีความสามารถในการทำงานร่วมกันของคู่โลหะในการเร่งปฏิกิริยาเคมี และ นำมาซึ่งความสามารถในการเร่งปฏิกิริยาที่โดดเด่นกว่าตัวเร่งปฏิกิริยาชนิดอื่นๆ

รางวัลที่ได้รับ

รางวัลวิจัยระดับดี (ปี 2567) จาก สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)

ช่องทางติดต่อ
ดร.ณัฏฐพร พิมพะ
Email : nuttaporn@nanotec.or.th Tel : 02-564-7100

Scroll to Top